สถิติ
เปิดเมื่อ12/07/2013
อัพเดท10/12/2013
ผู้เข้าชม14271
แสดงหน้า16493
ปฎิทิน
April 2024
Sun Mon Tue Wed Thu Fri Sat
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
    




ทำความรู้จักกับโยโย่เอฟเฟกต์

อ่าน 149 | ตอบ 0
โยโย่เอฟเฟกต์ คือ เมื่อเราหยุดลดน้ำหนัก แล้วกลับมาใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป ทานข้าวสามมื้อไม่ทานของจุกจิกแต่น้ำหนักตัวกลับค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนอาจจะกลับมาเท่าเดิมหรือมากกว่าเดิมก็ได้

          แต่หากวิธีการลดน้ำหนักไหนก็ตาม ที่เมื่อเราหยุดลดน้ำหนักแล้ว กลับมาใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป ทานข้าวสามมื้อไม่ทานของจุกจิก แล้วน้ำหนักตัวคงที่ไม่เพิ่มขึ้น วิธีการนั้นเราจะเรียกว่าไม่ทำให้เกิดโยโย่

          ส่วนคนที่ลดน้ำหนักได้ตามที่ต้องการ แล้วกลับมาทานสวาปาม ทานมากมาย ทานจุกจิกไม่ว่าเขาจะลดน้ำหนักด้วยวิธีการไหนก็ตามเขาก็จะกลับมาอ้วนอยู่ดี (ถ้าไม่เปลี่ยนนิสัยการทาน)

โยโย่เกิดจากอะไร

          โยโย่นั้นเกิดจากการที่เรา ลดน้ำหนักด้วยวิธีผิดๆ ที่ทำให้ร่างกายเราเผาผลาญน้อยลงเช่น จากเดิมเผาผลาญประมาณ 2,000 กิโลแคลอรี่ต่อวัน หลังจากลดน้ำหนักไปซักพักหนึ่งแล้ว ระดับการเผาผลาญอาจจะลดลงเป็น 1,200 กิโลแคลอรี่ต่อวัน และนี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของโยโย่

          วันหนึ่งเมื่อเรากลับมาทานอาหารปกติ ซึ่งเราจะได้พลังงานประมาณ 2,000 กิโลแคลอรี่ต่อวัน แต่ตอนนี้ร่างกายเราเผาผลาญเพียง 1,200 กิโลแคลอรี่ต่อวัน เราก็จะอยู่ในสภาพที่ได้พลังงานจากอาหารที่ทานมากกว่าพลังงานที่ใช้ เราก็จะอ้วนขึ้นนั่นเอง (ประมาณเดือนละ 3 กิโลกรัม)

สิ่งที่ทำให้ร่างกายเผาผลาญลดลงขณะลดน้ำหนัก 

          ส่วนสาเหตุที่ทำให้ร่างกายเรามีอัตราการเผาผลาญลดลงในขณะที่ลดน้ำหนัก มีสาเหตุจากสาเหตุไดสาเหตุหนึ่ง (หรือทั้งสองสาเหตุรวมกัน) ดังนี้

          1. ทานโปรตีนไม่เพียงพอ อย่างที่ได้ทราบไปว่า ยิ่งเรามีโปรตีน (กล้ามเนื้อ) ปริมาณมากเท่าไหร่ ร่างกายเราก็จะยิ่งเผาผลาญพลังงานมากขึ้นเท่านั้น การทานโปรตีนไม่เพียงพอจะทำให้ร่างกายสูญเสียโปรตีนไประหว่างลดน้ำหนักด้วย เมื่อโปรตีนในร่างกายลดลงร่างกายก็จะเผาผลาญลดลงด้วย

          2. ได้พลังงานจากอาหารน้อยเกินไป ร่างกายเราประกอบไปด้วยอวัยวะต่างๆ มากมาย ร่างกายเราจึงต้องการพลังงานอย่างน้อย 800 กิโลแคลอรี่ เพื่อให้อวัยวะต่างๆ สามารถทำงานได้ตามปกติ

          สิ่งที่จะเกิดขึ้นหากเราทานอาหารได้พลังงานน้อยกว่า 800 กิโลแคลอรี่ก็คือ ร่างกายเราจะคิดว่าอยู่ในสภาวะอดอยากจึงเปลี่ยนระบบการทำงานให้ประหยัดพลังงานที่สุด ทำให้อยู่ในสภาวะคล้ายสัตว์จำศีล อวัยวะแต่ละส่วนจะพยายามทำงานให้น้อยที่สุด ส่งผลให้ร่างกายเราเผาผลาญพลังงานน้อยลง ยิ่งอยู่ในสภาวะที่ได้พลังงานน้อยเกินไปนานแค่ไหน ร่างกายก็จะยิ่งเผาผลาญพลังงานน้อยลงเท่านั้น

          และการที่อวัยวะเราทำงานน้อยลงหรือทำงานบกพร่อง ก็จะทำให้เรามีโอกาสที่จะเป็นโรคต่างๆ ได้ง่ายขึ้น หรือเป็นแล้วหายยากขึ้น คนที่ทานอาหารน้อยเกินไปจึงมักสุขภาพไม่แข็งแรง น้ำหนักลดลงยาก น้ำหนักเพิ่มขึ้นง่าย คนที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวานหากทานอาหารที่ให้พลังงานน้อยเกินไป อาจจะทำให้อาการทรุดลงจนเสียชิวิตได้จึงควรระวังเป็นอย่างยิ่ง

          นอกจากนี้ การที่ร่างกายทำตัวเหมือนสัตว์จำศีล ร่างกายจะพยายามเก็บไขมันไว้ใช้ในยามจำเป็นให้มากที่สุด ผลก็คือ เราจะมีไขมันสะสมเพิ่มขึ้น มีปัญหาเรื่องสัดส่วนเกินมากขึ้น คนที่ลดน้ำหนักแบบผิดๆ จึงมักจะมีปัญหาเรื่องสัดส่วนเกินมากกว่าคนที่มีน้ำหนักพอๆ กันที่ลดแบบถูกวิธี

ทำยังไงไม่ให้โยโย่

          วิธีการที่จะทำให้ไม่เกิดโยโย่ก็คือ เราต้องเลือกวิธีการลดน้ำหนักที่ไม่ทำให้การเผาผลาญของร่างกายเราลดลง นั่นคือ

          1. เราจะต้องทานโปรตีนให้เพียงพอในระหว่างลดน้ำหนัก
          2. เราจะต้องทานอาหารให้ได้พลังงานไม่ต่ำกว่า 800 กิโลแคลอรี่ต่อวัน

มีเวลาให้ร่างกายได้ปรับตัว

          อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเราจะลดน้ำหนักด้วยวิธีการที่ไม่ทำให้เกิดโยโย่ เราก็จะเป็นจะต้องให้เวลาร่างกายปรับตัว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาหลังจากหยุดลดน้ำหนัก

          เนื่องจากร่างกายของเราจะทำงานในลักษณะที่มีการเก็บข้อมูลของร่างกายเอาไว้ คล้ายๆ กับการมีหน่วยความจำ (memory) เล็กๆที่คอยเก็บข้อมูลเรื่องน้ำหนักและเรื่องต่างๆ เอาไว้เพื่อให้ร่างกายเราทำงานได้อย่างเหมาะสม

          เช่น วันนี้เราอาจจะลดน้ำหนักได้ตามที่ต้องการแล้ว แต่เนื่องจากข้อมูลบางส่วนในร่างกายเราจะยังคงเป็นข้อมูลของเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว สิ่งที่จะเกิดขึ้นหากเราหยุดทุกอย่างทันทีก็คือ ร่างกายจะพยายามปรับตัวให้สอดคล้องกับข้อมูลที่มีอยู่ หากเมื่อ 3 เดือนที่แล้วเราน้ำหนัก 60 kg ร่างกายก็จะพยายามปรับตัวให้กลับไปสู่น้ำหนัก 60 kg ซึ่งก็จะทำให้น้ำหนักของเราเพิ่มขึ้นได้

          ฉะนั้นเมื่อเราลดน้ำหนักได้ตามที่เราต้องการแล้ว เราจะต้องคงสภาพการทานการออกกำลังกายเหมือนตอนที่เราลดน้ำหนักต่อไปอีก แล้วค่อยๆ ปรับการทานและการออกกำลังกายให้กลับมาเป็นปกติ โดยให้เวลาร่างกายในการปรับตัวประมาณ 3-6 เดือน เพื่อให้เร่างกายสามารถจดจำน้ำหนักนั้นได้ หลังจากนั้นเราก็สามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ โดยที่ไม่ทำให้เกิดโยโย่ขึ้น
ความคิดเห็นของผู้เข้าชม
ชื่อผู้แสดงความคิดเห็น :
สถานะ : รหัสผ่าน :
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง :
รหัสความปลอดภัย :